บริการจัดทำโฆษณา Google ADS พร้อมวัดผล Conversion ผ่านเว็บไซต์

บริการจัดทำโฆษณา Google ADS พร้อมวัดผล Conversion ผ่านเว็บไซต์
ปรับปรุงล่าสุด 11 ส.ค. 2566, 07:59 102 ครั้งเรียบเรียงโดย กฤติเดช ฉายจรุง
8 ขั้นตอน เตรียมแคมเปญให้พร้อมรับความสําเร็จ
บทความนี้ช่วยให้คุณเข้าใจข้อควรพิจารณาที่สำคัญเกี่ยวกับการสร้างแคมเปญ Google Ads ให้ประสบความสำเร็จ ฟีเจอร์เหล่านี้จะทํางานร่วมกันเพื่อช่วยให้คุณออกแบบและจัดการแคมเปญที่ทําให้บรรลุเป้าหมายการโฆษณาที่เฉพาะเจาะจงได้มากขึ้น
คุณสามารถใช้คู่มือเริ่มใช้งานฉบับย่อนี้เพื่อเตรียมสร้างแคมเปญได้
ทบทวน ก่อนดำเนินการจัดทำโฆษณา ทบทวนเนื้อหา บนเว็บไซต์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและองค์ประกอบที่สำคัญ
ทบทวน หลักเกณฑ์เฉพาะสำหรับเนื้อหา แนวทางการจัดการขั้นสูง
ภาพแบบจำลอง สาเหตุถึงความจำเป็นในการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการดำเนินกิจการจาก "หน้าร้านทั่วไป" เป็นระบบ Online ที่หลากหลายช่องทาง และสร้างความแตกต่าง
หมายเหตุ: เนื่องจาก Google ปรับปรุงกระบวนการเริ่มต้นใช้งานของผู้ใช้ใหม่ ผู้ใช้ Google Ads รายใหม่จึงอาจได้พบขั้นตอนการทํางานที่ผ่านการอัปเดตแล้ว เนื้อหาด้านล่างนี้เกี่ยวข้องกับผู้ใช้ Google Ads ที่สร้างและเข้าสู่ระบบบัญชี Google Ads ของตนอยู่แล้ว หน้านี้จะมีการอัปเดตข้อมูลเพิ่มเติมในปี 2023
แนวคิด วิเคราะห์ Google Business Model ร่วมกับแนวทางในการจัดทำโฆษณาให้มีประสิทธิภาพ
1. กําหนดวัตถุประสงค์
คุณจะเริ่มสร้างแต่ละแคมเปญได้โดยการเลือกเป้าหมาย ซึ่งเป้าหมายนี้จะเน้นการให้ผลลัพธ์ที่เจาะจงของแคมเปญ ดังนี้
คุณจะเห็นตัวเลือกที่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ที่เลือกไว้ขณะสร้างแคมเปญ เช่น หากเป้าหมายของคุณคือการเพิ่มการเข้าชมเว็บไซต์ คุณอาจต้องเลือกประเภทการเสนอราคา เช่น "เพิ่มจํานวนคลิกสูงสุด" เพื่อจ่ายเงินให้ผู้ใช้คลิกโฆษณา
ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเป้าหมายแคมเปญใน Google Ads
หมายเหตุ: Performance Max จะปรากฏอยู่ในตัวเลือกประเภทแคมเปญหากโฆษณาของคุณมีวัตถุประสงค์เพื่อกระตุ้น "ยอดขาย" "โอกาสในการขาย" หรือ "การเข้าชมร้านค้าและโปรโมชันในพื้นที่"
2. เลือกประเภทแคมเปญ
หลังจากเลือกเป้าหมายแล้ว คุณจะเห็นรายการประเภทแคมเปญที่แนะนําเพื่อให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าว ประเภทแคมเปญเป็นตัวกำหนดลักษณะและตำแหน่งที่แคมเปญจะแสดง
หมายเหตุ: แคมเปญ Performance Max ให้คุณใช้ประโยชน์จาก AI ของ Google เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ตอบสนองแบบเรียลไทม์ต่อการเปลี่ยนแปลงของผู้บริโภค ตลอดจนค้นหาลูกค้าที่ทําให้เกิด Conversion ได้มากขึ้นในช่องทางต่างๆ ของ Google ทั้ง YouTube, Display, Search, Discover และอื่นๆ
ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเลือกประเภทแคมเปญที่เหมาะสม
เช่น แคมเปญวิดีโอหรือแคมเปญ Discovery จะแสดงโฆษณาวิดีโอบน YouTube ในขณะที่แคมเปญในเครือข่ายดิสเพลย์จะแสดงโฆษณาแบบรูปภาพบนเว็บไซต์
ประเภทแคมเปญมีอะไรบ้าง
|
|
|
|
|
|
App
|
|
|
|
|
|
|
3. ตั้งงบประมาณ
คุณจะตั้งงบประมาณรายวันเฉลี่ยเพื่อควบคุมจํานวนเงินที่ต้องการใช้จ่ายได้ด้วยการเสนอราคาโฆษณา ซึ่งคุณสามารถแก้ไขงบประมาณนี้ได้ทุกเมื่อ
ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับงบประมาณรายวันเฉลี่ย
4. เลือกการเสนอราคา
หากเลือกเป้าหมายแคมเปญแล้ว เมื่อเลือกประเภทการเสนอราคา คุณจะเห็นคําแนะนําสําหรับจุดมุ่งเน้นในการเสนอราคา เช่น "Conversion" ตามเป้าหมายแคมเปญ
จุดมุ่งเน้นนี้มีไว้เพื่อให้มั่นใจว่าแคมเปญจะได้รับการออกแบบมาให้บรรลุเป้าหมายที่เจาะจง สำหรับแคมเปญบางประเภท หากคุณไม่ต้องการเลือกจุดมุ่งเน้นในการเสนอราคาที่แนะนำ คุณอาจเลือกกลยุทธ์การเสนอราคาอัตโนมัติ เช่น ราคาต่อหนึ่งการกระทํา (CPA) เป้าหมาย หรือผลตอบแทนเป้าหมายจากค่าโฆษณา (ROAS) แทนได้
หมายเหตุ: หากไม่มีตัวเลือกกลยุทธ์การเสนอราคาที่ต้องการใช้ในขั้นตอนนี้ คุณอาจต้องเปลี่ยนเป้าหมายหรือประเภทแคมเปญที่เลือกไว้ในตอนแรก
ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกลยุทธ์การเสนอราคาอัตโนมัติ
5. เพิ่มชิ้นงานลงในโฆษณา
เมื่อใช้แคมเปญ Search, วิดีโอ, Discovery และ Performance Max คุณจะใส่ข้อมูลเพิ่มเติมในโฆษณาได้ เช่น ลิงก์เว็บไซต์ เส้นทาง หรือหมายเลขโทรศัพท์อื่นๆ
ชิ้นงานเหล่านี้ช่วยให้ผู้ใช้อยากใช้บริการของธุรกิจคุณมากขึ้น และมักจะเพิ่มอัตราการคลิกผ่านของโฆษณาได้หลายเปอร์เซ็นต์ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับชิ้นงานโฆษณาและชิ้นงานที่คุณสามารถเลือกตามเป้าหมายทางธุรกิจ
6. สร้างกลุ่มโฆษณา
คุณจะจัดกลุ่มโฆษณาที่เกี่ยวข้องตามการกำหนดเป้าหมายเดียวกันได้สำหรับแคมเปญทุกประเภท ยกเว้นแคมเปญ Shopping และ Performance Max เช่น จัดกลุ่มโฆษณาที่เน้นรองเท้าใส่ไปงานไว้ด้วยกัน และกำหนดเป้าหมายกลุ่มโฆษณาเหล่านี้เป็นผู้ที่กำลังค้นหารองเท้าใส่ไปงาน เป็นต้น
ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีทำงานของกลุ่มโฆษณา
แคมเปญ Shopping ใช้กลุ่มผลิตภัณฑ์ในการจัดกลุ่มชุดผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องซึ่งมีการกำหนดเป้าหมายเดียวกัน
7. เลือกการกำหนดเป้าหมาย
การกําหนดเป้าหมายช่วยระบุว่ากลุ่มเป้าหมายของโฆษณาจะแคบหรือกว้างเพียงใด โฆษณาจะมีการเข้าถึงที่กว้างที่สุดหากไม่มีการกำหนดเป้าหมาย ทั้งนี้การกําหนดเป้าหมายโฆษณาจะช่วยให้คุณมุ่งเน้นเฉพาะลูกค้าที่สนใจผลิตภัณฑ์หรือบริการของคุณได้
รูปแบบการกําหนดเป้าหมายทั่วไป ได้แก่ คีย์เวิร์ด กลุ่มเป้าหมาย สถานที่ตั้ง หัวข้อ อุปกรณ์ และรีมาร์เก็ตติ้ง การกําหนดเป้าหมายที่เฉพาะเจาะจงใช้ได้ในแคมเปญบางประเภทเท่านั้น (เช่น ใน Performance Max คุณไม่สามารถเลือกแสดงโฆษณาต่อลูกค้าเพียงบางกลุ่ม เช่น ผู้หญิงอายุ 18-24 ปี หรือลูกค้าที่อยู่ในรายการรีมาร์เก็ตติ้งอยู่แล้ว แต่สามารถระบุลูกค้าที่เจาะจงเหล่านี้เป็นสัญญาณของกลุ่มเป้าหมายให้กับแคมเปญ Performance Max เพื่อเร่งกระบวนการเรียนรู้ของ AI ของ Google)
ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการกำหนดเป้าหมายโฆษณา
8. ตั้งค่า Conversion
เครื่องมือวัด Conversion ช่วยคุณติดตามการกระทําที่คุณต้องการให้ลูกค้าทําบนเว็บไซต์ได้ และเป็นเครื่องมือที่จะช่วยเพิ่มความสามารถในการประเมินประสิทธิภาพของโฆษณา การกำหนดเป้าหมาย และแคมเปญโดยรวมได้อย่างมาก
หมายเหตุ: แคมเปญบางประเภทต้องใช้เครื่องมือวัด Conversion
ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเครื่องมือวัด Conversion
บริการจัดทำโฆษณา เพิ่มยอดขายที่ Website | คอร์สออนไลน์ Facebook ADS | บริการจัดทำเนื้อหา / จัดทำโฆษณา
ติดต่อสอบถาม
ฝ่ายปฏิบัติงาน / ฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์
ฝ่ายปฏิบัติงาน โทร 0894222350 ฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์ โทร 0881597444