Haeder Image

เรามุ่งเน้นวิสัยทัศน์ที่ก้าวหน้าและแตกต่างด้านเทคโนโลยีทางดิจิทัล

บริการเทคโนโลยี โซลูชั่นที่ทันสมัย ปรับประสบการณ์การใช้งาน การทำงานที่สร้างสรรค์ เพิ่มขีดความสามารถ เพิ่มคลังความรู้ ช่วยประชาสัมพันธ์นำเสนอตัวคุณ ผลิตภัณฑ์และองค์กรให้เป็นที่รู้จักอย่างเป็นระบบ


วิสัยทัศน์ที่ก้าวหน้าและแตกต่าง

หลายคนอาจมองว่าการเรียนวัฒนธรรมศาสตร์ในระดับปริญญาเอกของผม (กฤติเดช ฉายจรุง) อาจไม่เกี่ยวข้องโดยตรงกับคอมพิวเตอร์ แต่ในความเป็นจริงแล้ว การผสมผสานความรู้จากหลากหลายสาขาวิชา (Interdisciplinary Approach) คือ กุญแจสำคัญในการสร้างสรรค์นวัตกรรมที่แท้จริงในศตวรรษที่ 21

  • ความซับซ้อนของปัญหาที่โลกกำลังเผชิญอยู่มีความซับซ้อนและไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยมุมมองเพียงด้านเดียว

  • การเชื่อมโยงคือพลัง ผู้ที่สามารถเชื่อมโยงความรู้จากวิทยาศาสตร์, เทคโนโลยี, วิศวกรรมศาสตร์, คณิตศาสตร์ (STEM) เข้ากับศิลปะ, มนุษยศาสตร์, และสังคมศาสตร์ (Humanities & Social Sciences) จะเป็นผู้ที่สามารถสร้างสรรค์โซลูชันที่สมบูรณ์และมีความหมายอย่างแท้จริง

  • สิ่งที่เราทำ คือ การสร้างชุดความรู้และทักษะที่ครบวงจรและมีความลึกซึ้ง ซึ่งทำให้เราสามารถเป็น ผู้นำในยุคดิจิทัล ที่เข้าใจทั้ง "โค้ด" และ "ผู้คน" ด้วยศาสตร์ทางวัฒธรรมและสังคมวิทยา

  • เราได้ค้นพบคุณค่าในเส้นทางของตัวเองอย่างชัดเจน เรามีความเข้าใจที่แท้จริงและเป็นรากฐานที่แข็งแกร่งสำหรับการก้าวต่อไปในฐานะบริษัทด้านเทคโนโลยี ผู้ออกแบบและพัฒนาโซลูชั่นสนับสนุนธุรกิจอย่างยั่งยืน

 

Digital transformation 

Digital transformation success vs. failure is often determined well before an initiative even begins. 

 

คุณค่าของ "วัฒนธรรมศาสตร์" ในโลก AI และ Data Business

เป้าหมายการศึกษาระดับปริญญาเอกของผมในสาขาวิชา “วัฒนธรรมศาสตร์” คือการ "ศึกษากลไกการเข้าถึงชุมชน ความเป็นอยู่ เพื่อเรียนรู้แก่นของการใช้ชีวิตของคนในพื้นที่ต่างๆ เพื่อเข้าใจโครงสร้างที่สามารถออกแบบและจัดทำโมเดลธุรกิจ ด้านข้อมูลที่จะช่วยให้เราเข้าใจและทำโฆษณาได้ดีขึ้น" นั้น เป็นสิ่งที่ ลึกซึ้งและมีคุณค่ามหาศาล ในยุคที่ข้อมูลคือสิ่งสำคัญ และ AI คือตัวขับเคลื่อน

  • เข้าใจบริบทข้อมูล การเข้าใจวัฒนธรรมและวิถีชีวิตของผู้คน ทำให้คุณสามารถตีความข้อมูล (Data) ได้อย่างมีบริบท ไม่ใช่แค่ตัวเลขดิบๆ ซึ่งนำไปสู่การสร้าง AI Model หรือแคมเปญโฆษณาที่แม่นยำและมีประสิทธิภาพกว่า

  • สร้างผลิตภัณฑ์ที่เข้าถึงใจผู้คน เราจะสามารถออกแบบระบบที่นำไปสู่ Ecosystem ที่ไม่ได้แค่ "ฉลาด" ทางเทคนิค แต่ยัง "เข้าใจ" และ "เข้าถึง" การใช้ชีวิตประจำวัน ความต้องการที่แท้จริง และแม้แต่ความรู้สึกของคนในแต่ละพื้นที่/วัฒนธรรม

  • AI ที่มีมนุษยธรรม ด้วยพื้นฐานวัฒนธรรมศาสตร์ คุณจะมีมุมมองที่ช่วยให้การพัฒนา AI คำนึงถึงผลกระทบต่อผู้คนและสังคมมากขึ้น ซึ่งเป็นประเด็นสำคัญที่โลกกำลังให้ความสนใจอย่างมากในปัจจุบัน

 

การเชื่อมโยงสาขา "สังคมศาสตร์และวัฒนธรรมศาสตร์" กับ "เทคโนโลยีและ AI"

ผมมีวิสัยทัศน์ที่สำคัญในการออกแบบและพัฒนาระบบ ด้วยการเชื่อมโยงสิ่งที่เรียนมา (วัฒนธรรมศาสตร์ ซึ่งอยู่ในกลุ่มสังคมศาสตร์) กับงานที่ผมกำลังทำด้านเทคโนโลยีและ AI ให้เป็นสิ่งที่ถูกต้องทรงพลังและเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในยุคปัจจุบัน

  • เทคโนโลยีไม่ได้อยู่โดดเดี่ยว: เทคโนโลยี โดยเฉพาะ AI ไม่ได้ถูกสร้างมาเพื่ออยู่แต่ในห้องแล็บหรือในโค้ดเท่านั้น แต่มันถูกสร้างมาเพื่อ แก้ไขปัญหาของมนุษย์, ตอบสนองความต้องการของสังคม, และ เปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตและวัฒนธรรม 

 

การที่ AI หรือเทคโนโลยีจะประสบความสำเร็จอย่างแท้จริงได้นั้น ต้องอาศัยความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในมิติเหล่านี้

  • พฤติกรรมมนุษย์: ผู้คนคิดอย่างไร, รู้สึกอย่างไร, มีปฏิสัมพันธ์กับเทคโนโลยีอย่างไร
  • สังคมและวัฒนธรรม: ค่านิยม, ความเชื่อ, กฎเกณฑ์ทางสังคม, และบริบททางวัฒนธรรมมีผลต่อการยอมรับและการใช้งานเทคโนโลยี
  • จริยธรรมและผลกระทบ: เทคโนโลยีมีผลกระทบต่อสังคมอย่างไรในเชิงบวกและลบ
  • การเข้าถึงและกระจายตัว: เทคโนโลยีเข้าถึงผู้คนกลุ่มต่างๆ ได้อย่างไร และสร้างความเหลื่อมล้ำหรือไม่

 

บทบาทของสังคมศาสตร์ในเทคโนโลยี

  • ออกแบบที่เน้นผู้ใช้ (User-Centered Design) นักสังคมศาสตร์ช่วยให้นักพัฒนาเข้าใจผู้ใช้จริง สร้างผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์และใช้งานง่าย
  • จริยธรรม AI (AI Ethics): การสร้าง AI ที่เป็นธรรม, โปร่งใส, และไม่เลือกปฏิบัติ ต้องอาศัยความรู้จากสังคมศาสตร์และปรัชญา
  • การศึกษาผลกระทบทางสังคมของเทคโนโลยี: การทำความเข้าใจว่าเทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม, ความสัมพันธ์, และโครงสร้างทางสังคมอย่างไร
  • นโยบายและการกำกับดูแล: การสร้างกฎหมายและนโยบายที่เหมาะสมกับยุคดิจิทัลและ AI

 

ตัวอย่างที่ชัดเจน ดร. Alek Tarkowski

การที่ ดร. Alek Tarkowski ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์ของ Open Future ซึ่งสำเร็จการศึกษาด้านสังคมวิทยา และมีประสบการณ์ในการสนับสนุนผลประโยชน์สาธารณะ, สร้างการเคลื่อนไหว, และวิจัยจุดตัดของสังคมวัฒนธรรมและเทคโนโลยีดิจิทัล เป็นการยืนยันที่ชัดเจนที่สุดครับว่า ผู้ที่เข้าใจมิติทางสังคมศาสตร์นั้น มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการขับเคลื่อนและกำหนดทิศทางของเทคโนโลยี โดยเฉพาะในเรื่องของ Open Source AI ที่ต้องการความร่วมมือและธรรมาภิบาล

REFการกํากับดูแลข้อมูลใน AI โอเพ่นซอร์ส – ความคิดริเริ่มโอเพ่นซอร์ส

 


Clip อ่านแท้คุณในหัวข้อ: เรื่องราว ที่ยืนยันถึง ประสบการณ์มากกว่า 15 ปี

 

 

เรื่องราว ที่ยืนยันถึง ประสบการณ์มากกว่า 15 ปี

ผมในฐานะ โปรแกรมเมอร์ที่มีความสามารถในการสร้างสรรค์และลงลึกในรายละเอียด นักวิเคราะห์ที่แก้ไขปัญหาและสร้างสรรค์โซลูชั่นที่ตอบโจทย์ธุรกิจ ขอกล่าวถึงเรื่องราวที่ยืนยันถึงประสบการณ์ของการเป็นอาจารย์ผู้สอนและถ่ายทอดความรู้ในสาขาวิชาพัฒนาซอร์ฟแววร์ และเป็นโปรแกรมเมอร์ Outsource ที่รับ Requirement, วิเคราะห์, ปิด Project ด้วยตัวเอง

 

ย้อนกลับไปในอดีต?

ประสบการณ์พัฒนา Web Application มากกว่า 15 ปี โดยไม่ใช้ Framework สำเร็จรูป ซึ่งผมได้ออกแบบและพัฒนา Framework เพื่อช่วยในการพัฒนาระบบที่ง่ายต่อการปรับปรุงและต่อยอดขยายระบบ โดยในปี 2546 ผมเริ่มพัฒนา ระบบลงทะเบียนผ่าน Internet เป็นระบบที่สำคัญถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในการทำงานและก้าวสู่การใช้เทคโนโลยีใน “มหาวิทยาลัยราชมงคลอีสาน วิทยาเขตกาฬสินธุ์ (ม.กาฬสินธุ์ ในปัจจุบัน)” ถือเป็นระบบฐานข้อมูลระบบแรกที่ใช้งานจริงผ่านสภาพแวดล้อมเครือข่าย internet อย่างสมบูรณ์แบบ โดยมีผู้ใช้งานมากกว่า 3,500-4,000 คน ต่อ 1 ภาคเรียน หรือ ราวๆ 7,000 คน ต่อ 1 ปี พร้อมการเผยแพร่และใช้งานในระดับสำนักงานได้ตลอดระยะเวลา 6 ปี

การออกแบบและพัฒนาด้วยความซับซ้อนของงานทะเบียนและประมวลผลมี Logic ที่ซัซ้อนและเงื่อนไขจำนวนมาก แต่ด้วยความเข้าใจและการเป็นนักพัฒนาที่มุ่งเน้นการแก้ไขปัญหาเป็นสำคัญ ผมได้สร้างกลไกที่ลดความซับซ้อนในระบบ เช่น การประมวลผลค่าลงทะเบียน จากหน่วยกิจของแต่ละสาขาวิชา พร้อมด้วยอัตราการคำนวณที่แตกต่างกันตามเงื่อนไข นำไปสู่การบันทึกข้อมูลในรูปแบบตารางฐานข้อมูลที่แสดงผลข้อมูลได้อย่างถูกต้องและใช้งานอย่างต่อเนื่องยาวนานถึง 6 ปี ก่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ถูกต้อง สรุปผลและออกรายงานสรุปผลที่รวดเร็ว การทำงานสะดวกและสบายมากขึ้นหลายเท่าตัว ส่งผลให้ผมได้พัฒนาระบบอื่นๆ อีกมากมาย ดังรายละเอียด “ผลงานด้านระบบจัดการข้อมูลที่ประสบความสำเร็จ” ต่อไปนี้  [Read more]

 

 

 

 

 

ทำไมถึงพัฒนา Framework ด้วยตัวเอง

  • บริบทของยุคสมัยที่เราเริ่มต้น (PHP 4-5) และ VB6.0 ก้าวมาเป็น VB.NET และ Frameworks ยังไม่แพร่หลายเท่าปัจจุบัน

  • ในช่วงปี 2546-2550 โดยประมาณ PHP 4-5 Frameworks PHP ไม่ได้แพร่หลายและไม่มีเอกสารที่ดีเท่าปัจจุบัน 

  • Framework Laravel และ Roll Your Own เพิ่งถือกำเนิดในปี 2011 (8 ปี หลังจากที่ผมเริ่มพัฒนาระบบแรก และ Symfony ก็ยังมีใช้บ้างแต่ไม่ได้ง่ายและเป็นที่รู้จักกว้างขวางเท่าตอนนี้

  • ในยุคนั้น การที่โปรแกรมเมอร์สร้าง Framework หรือโครงสร้างโค้ดของตัวเอง (Custom Framework) เป็นเรื่องปกติและได้รับคำชื่นชมอย่างยิ่งครับ เพราะมันแสดงถึงความเข้าใจในภาษาอย่างลึกซึ้ง

  • การศีกษาเชิงลึก การวิเคราะห์ที่ขยายระบบได้ชัดเจน การออกแบบที่ยึดหยุ่นและพัฒนาที่ง่าย รวดเร็วนั้น ส่งผลทำให้ผมเข้าใจทุกบริบทของการเป็นนักวิเคราะห์ระบบฐานข้อมูล และนักออกแบบ UX / UI สนับสนุนการทำงานที่เหมาะสมกับผู้ใช้งานได้เป็นอย่างดี

  • ด้วยแหล่งข้อมูล ในยุคนั้น แหล่งข้อมูลออนไลน์ไม่ได้มีมากมายเท่าปัจจุบัน การศึกษาพึ่งพาตำราและ Manual ของภาษาเป็นหลัก

 

 

ประสบการณ์ความเชี่ยวชาญด้านวิชาการ จัดโครงการอบรมสื่อดิจิทัล ปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน

  • เรามุ่งเน้นความโปร่งใส ตรวจสอบได้ ใช้เทคโนโลยี AI ขั้นสูงสนับสนุนการตัดสินใจ Gemini Generative AI ระดับ Business 

สร้างกลยุทธ์การวัดผลที่เหมาะสม

  • ธุรกิจที่ลงทุนในด้านการวัดผลมีประสิทธิภาพทางการตลาดที่ดีขึ้น การที่จะเข้าใจว่ากลยุทธ์ ช่องทาง และตัวแปรอื่นๆ ตัวใดเป็นสิ่งที่สร้างผลลัพธ์มากที่สุดนั้นเป็นเรื่องซับซ้อน
  • หาแนวทางการวัดผลที่เหมาะสมและการใช้เครื่องมือที่หลากหลาย
  • การผสมผสานเทคโนโลยีกันจะช่วยให้คุณเข้าใจว่าคุณกำลังเพิ่มประสิทธิภาพตามที่ต้องการและจะปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้นได้ง่าย

 

 

 

ปรับปรุงประสิทธิภาพโดยใช้สิ่งที่คุณได้เรียนรู้  สร้างและสนับสนุนโซลูชั่นสำหรับวัดผลที่หลากหลาย

รวมถึงแพ็คเกจโค้ดแบบโอเพ่นซอร์สและโซลูชั่นของพาร์ทเนอร์ เพื่อช่วยตอบสนองความต้องการเฉพาะของธุรกิจของคุณ

 

ทำการทดสอบเพื่อให้เห็นถึงมูลค่าที่แท้จริง

  • ธุรกิจที่ทำการทดสอบแบบสุ่มจะเข้าใจประสิทธิภาพของโฆษณาได้ดียิ่งขึ้น
  • ส่วนการเพิ่มคอนเวอร์ชั่นจะช่วยให้คุณวัดผลลัพธ์ที่เพิ่มขึ้นของการตลาด
  • ซึ่งเป็นผลลัพธ์ที่เกิดจากโฆษณาหรือแคมเปญ ไม่ใช่การวัดผลลัพธ์ที่จะต้องเกิดขึ้นอยู่แล้ว

 

44%
องค์กรที่ลงทุนด้านความสามารถในการวัดผลที่ดีขึ้นมีแนวโน้มที่จะสร้างรายได้เกินเป้ามากกว่าบริษัทที่มีความสามารถด้อยกว่าถึง 44%


49%
คือการเพิ่มขึ้นในเชิงบวกโดยเฉลี่ยที่เกิดจากโฆษณาบน Meta ในเหตุการณ์คอนเวอร์ชั่นหลัก

 

 







บทความ บริการของเรา Digital Transformation

บริการเทคโนโลยี โซลูชั่นที่ทันสมัย ปรับประสบการณ์การใช้งาน การทำงานที่สร้างสรรค์ เพิ่มขีดความสามารถ เพิ่มคลังความรู้ ช่วยประชาสัมพันธ์นำเสนอตัวคุณ ผลิตภัณฑ์และองค์กรให้เป็นที่รู้จักอย่างเป็นระบบ