วิสัยทัศน์การเชื่อมโยงสิ่งที่สำคัญ & เรื่องราวยืนยัน ประสบการณ์มากกว่า 15 ปี
24 มิ.ย. 2568, 05:10
เรื่องราว ที่ยืนยันถึงประสบการณ์มากกว่า 15 ปี
ผมในฐานะ โปรแกรมเมอร์ที่มีความสามารถในการสร้างสรรค์และลงลึกในรายละเอียด นักวิเคราะห์ที่แก้ไขปัญหาและสร้างสรรค์โซลูชั่นที่ตอบโจทย์ธุรกิจ ขอกล่าวถึงเรื่องราวที่ยืนยันถึงประสบการณ์ของการเป็นอาจารย์ผู้สอนและถ่ายทอดความรู้ในสาขาวิชาพัฒนาซอร์ฟแววร์ และเป็นโปรแกรมเมอร์ Outsource ที่รับ Requirement, วิเคราะห์, ปิด Project ด้วยตัวเอง
ย้อนกลับไปในอดีต?
ประสบการณ์พัฒนา Web Application มากกว่า 15 ปี โดยไม่ใช้ Framework สำเร็จรูป ซึ่งผมได้ออกแบบและพัฒนา Framework เพื่อช่วยในการพัฒนาระบบที่ง่ายต่อการปรับปรุงและต่อยอดขยายระบบ โดยในปี 2546 ผมเริ่มพัฒนา ระบบลงทะเบียนผ่าน Internet เป็นระบบที่สำคัญถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในการทำงานและก้าวสู่การใช้เทคโนโลยีใน “มหาวิทยาลัยราชมงคลอีสาน วิทยาเขตกาฬสินธุ์ (ม.กาฬสินธุ์ ในปัจจุบัน)” ถือเป็นระบบฐานข้อมูลระบบแรกที่ใช้งานจริงผ่านสภาพแวดล้อมเครือข่าย internet อย่างสมบูรณ์แบบ โดยมีผู้ใช้งานมากกว่า 3,500-4,000 คน ต่อ 1 ภาคเรียน หรือ ราวๆ 7,000 คน ต่อ 1 ปี พร้อมการเผยแพร่และใช้งานในระดับสำนักได้ตลอดทั้งปี
การออกแบบและพัฒนาด้วยความซับซ้อนของงานทะเบียนและประมวลผลมี Logic ที่ซัซ้อนและเงื่อนไขจำนวนมาก แต่ด้วยความเข้าใจและการเป็นนักพัฒนาที่มุ่งเน้นการแก้ไขปัญหาเป็นสำคัญ ผมได้สร้างกลไกที่ลดความซับซ้อนในระบบ เช่น การประมวลผลค่าลงทะเบียน จากหน่วยกิจของแต่ละสาขาวิชา พร้อมด้วยอัตราการคำนวณที่แตกต่างกันตามเงื่อนไข นำไปสู่การบันทึกข้อมูลในรูปแบบตารางฐานข้อมูลที่แสดงผลข้อมูลได้อย่างถูกต้องและใช้งานอย่างต่อเนื่องยาวนานถึง 6 ปี ก่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ถูกต้อง สรุปผลและออกรายงานสรุปผลที่รวดเร็ว การทำงานสะดวกและสบายมากขึ้นหลายเท่าตัว ส่งผลให้ผมได้พัฒนาระบบอื่นๆ อีกมากมาย ดังรายละเอียด “ผลงานด้านระบบจัดการข้อมูลที่ประสบความสำเร็จ” ต่อไปนี้ [Read more]
ทำไมถึงพัฒนา Framework ด้วยตัวเอง
-
บริบทของยุคสมัยที่เราเริ่มต้น (PHP 4-5) และ VB6.0 ก้าวมาเป็น VB.NET และ Frameworks ยังไม่แพร่หลายเท่าปัจจุบัน
-
ในช่วงปี 2546-2550 โดยประมาณ PHP 4-5 Frameworks PHP ไม่ได้แพร่หลายและไม่มีเอกสารที่ดีเท่าปัจจุบัน
-
Framework Laravel และ Roll Your Own เพิ่งถือกำเนิดในปี 2011 (8 ปี หลังจากที่ผมเริ่มพัฒนาระบบแรก และ Symfony ก็ยังมีใช้บ้างแต่ไม่ได้ง่ายและเป็นที่รู้จักกว้างขวางเท่าตอนนี้
-
ในยุคนั้น การที่โปรแกรมเมอร์สร้าง Framework หรือโครงสร้างโค้ดของตัวเอง (Custom Framework) เป็นเรื่องปกติและได้รับคำชื่นชมอย่างยิ่งครับ เพราะมันแสดงถึงความเข้าใจในภาษาอย่างลึกซึ้ง
-
การศีกษาเชิงลึก การวิเคราะห์ที่ขยายระบบได้ชัดเจน การออกแบบที่ยึดหยุ่นและพัฒนาที่ง่าย รวดเร็วนั้น ส่งผลทำให้ผมเข้าใจทุกบริบทของการเป็นนักวิเคราะห์ระบบฐานข้อมูล และนักออกแบบ UX / UI สนับสนุนการทำงานที่เหมาะสมกับผู้ใช้งานได้เป็นอย่างดี
-
ด้วยแหล่งข้อมูล ในยุคนั้น แหล่งข้อมูลออนไลน์ไม่ได้มีมากมายเท่าปัจจุบัน การศึกษาพึ่งพาตำราและ Manual ของภาษาเป็นหลัก
การเชื่อมโยงสาขา "สังคมศาสตร์" "วัฒนธรรมศาสตร์" กับ "เทคโนโลยีและ AI"
ผมมีวิสัยทัศน์ที่สำคัญในการออกแบบและพัฒนาระบบ ด้วยการเชื่อมโยงสิ่งที่เรียนมา (วัฒนธรรมศาสตร์ ซึ่งอยู่ในกลุ่มสังคมศาสตร์) กับงานที่ผมกำลังทำด้านเทคโนโลยีและ AI ให้เป็นสิ่งที่ถูกต้องทรงพลังและเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในยุคปัจจุบัน
- เทคโนโลยีไม่ได้อยู่โดดเดี่ยว: เทคโนโลยี โดยเฉพาะ AI ไม่ได้ถูกสร้างมาเพื่ออยู่แต่ในห้องแล็บหรือในโค้ดเท่านั้น แต่มันถูกสร้างมาเพื่อ แก้ไขปัญหาของมนุษย์, ตอบสนองความต้องการของสังคม, และ เปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตและวัฒนธรรม
การที่ AI หรือเทคโนโลยีจะประสบความสำเร็จอย่างแท้จริงได้นั้น ต้องอาศัยความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในมิติเหล่านี้
- พฤติกรรมมนุษย์: ผู้คนคิดอย่างไร, รู้สึกอย่างไร, มีปฏิสัมพันธ์กับเทคโนโลยีอย่างไร
- สังคมและวัฒนธรรม: ค่านิยม, ความเชื่อ, กฎเกณฑ์ทางสังคม, และบริบททางวัฒนธรรมมีผลต่อการยอมรับและการใช้งานเทคโนโลยี
- จริยธรรมและผลกระทบ: เทคโนโลยีมีผลกระทบต่อสังคมอย่างไรในเชิงบวกและลบ
- การเข้าถึงและกระจายตัว: เทคโนโลยีเข้าถึงผู้คนกลุ่มต่างๆ ได้อย่างไร และสร้างความเหลื่อมล้ำหรือไม่
บทบาทของสังคมศาสตร์ในเทคโนโลยี
- ออกแบบที่เน้นผู้ใช้ (User-Centered Design): นักสังคมศาสตร์ช่วยให้นักพัฒนาเข้าใจผู้ใช้จริง สร้างผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์และใช้งานง่าย
- จริยธรรม AI (AI Ethics): การสร้าง AI ที่เป็นธรรม, โปร่งใส, และไม่เลือกปฏิบัติ ต้องอาศัยความรู้จากสังคมศาสตร์และปรัชญา
- การศึกษาผลกระทบทางสังคมของเทคโนโลยี: การทำความเข้าใจว่าเทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม, ความสัมพันธ์, และโครงสร้างทางสังคมอย่างไร
- นโยบายและการกำกับดูแล: การสร้างกฎหมายและนโยบายที่เหมาะสมกับยุคดิจิทัลและ AI
ตัวอย่างที่ชัดเจน ดร. Alek Tarkowski
การที่ ดร. Alek Tarkowski ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์ของ Open Future ซึ่งสำเร็จการศึกษาด้านสังคมวิทยา และมีประสบการณ์ในการสนับสนุนผลประโยชน์สาธารณะ, สร้างการเคลื่อนไหว, และวิจัยจุดตัดของสังคมวัฒนธรรมและเทคโนโลยีดิจิทัล เป็นการยืนยันที่ชัดเจนที่สุดครับว่า ผู้ที่เข้าใจมิติทางสังคมศาสตร์นั้น มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการขับเคลื่อนและกำหนดทิศทางของเทคโนโลยี โดยเฉพาะในเรื่องของ Open Source AI ที่ต้องการความร่วมมือและธรรมาภิบาล
REF: การกํากับดูแลข้อมูลใน AI โอเพ่นซอร์ส – ความคิดริเริ่มโอเพ่นซอร์ส
คุณค่าของ "วัฒนธรรมศาสตร์" ในโลก AI และ Data Business
เป้าหมายการศึกษาระดับปริญญาเอกของผมในสาขาวิชา “วัฒนธรรมศาสตร์” คือการ "ศึกษากลไกการเข้าถึงชุมชน ความเป็นอยู่ เพื่อเรียนรู้แก่นของการใช้ชีวิตของคนในพื้นที่ต่างๆ เพื่อเข้าใจโครงสร้างที่สามารถออกแบบและจัดทำโมเดลธุรกิจ ด้านข้อมูลที่จะช่วยให้เราเข้าใจและทำโฆษณาได้ดีขึ้น" นั้น เป็นสิ่งที่ ลึกซึ้งและมีคุณค่ามหาศาล ในยุคที่ข้อมูลคือสิ่งสำคัญ และ AI คือตัวขับเคลื่อน
-
เข้าใจบริบทข้อมูล: การเข้าใจวัฒนธรรมและวิถีชีวิตของผู้คน ทำให้คุณสามารถตีความข้อมูล (Data) ได้อย่างมีบริบท ไม่ใช่แค่ตัวเลขดิบๆ ซึ่งนำไปสู่การสร้าง AI Model หรือแคมเปญโฆษณาที่แม่นยำและมีประสิทธิภาพกว่า
-
สร้างผลิตภัณฑ์ที่เข้าถึงใจผู้คน: เราจะสามารถออกแบบระบบที่นำไปสู่ Ecosystem ที่ไม่ได้แค่ "ฉลาด" ทางเทคนิค แต่ยัง "เข้าใจ" และ "เข้าถึง" การใช้ชีวิตประจำวัน ความต้องการที่แท้จริง และแม้แต่ความรู้สึกของคนในแต่ละพื้นที่/วัฒนธรรม
-
AI ที่มีมนุษยธรรม: ด้วยพื้นฐานวัฒนธรรมศาสตร์ คุณจะมีมุมมองที่ช่วยให้การพัฒนา AI คำนึงถึงผลกระทบต่อผู้คนและสังคมมากขึ้น ซึ่งเป็นประเด็นสำคัญที่โลกกำลังให้ความสนใจอย่างมากในปัจจุบัน
วิสัยทัศน์การเชื่อมโยงสิ่งที่สำคัญ ประสบการณ์มากกว่า 15 ปี ด้วยการออกแบบและพัฒนา Framework ของตัวเอง
ติดต่อสอบถาม
ฝ่ายปฏิบัติงาน / ฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์
ฝ่ายปฏิบัติงาน โทร 0894222350 ฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์ โทร 0881597444
